วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561

รูปปั้นฝังอัฐิคนตาย “สำนักสงฆ์อาจารย์ซ่วน”



               ขึ้นชื่อว่ารูปปั้นหลายคนก็อาจจะไม่คิดว่าในนั้นจะมีอะไร เพราะอาจจะเป็นแค่ปูนหรือว่าดินเผาที่ใช้ในการปั้นเท่านั้นแต่ไม่ใช่สำหรับสถานที่ที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เพราะว่าสถานที่เราจะกล่าวถึงมีรูปปั้นนับร้อยนับพันที่เต็มไปด้วยอัฐิของคนตายพูดแค่นี้หลายคนก็จะรู้แล้วใช่ไหมละค่ะว่าสถานที่แห่งนั้น คือ สำนักสงฆ์ของอาจารย์ซ่วน 




สำหรับ สำนักสงฆ์ของอาจารย์ซ่วน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งชาวบ้านในละแวกนั้นต่างสะพรึงกลัวกับรูปปั้นที่อาจารย์ซ่วนได้ปั่นขึ้น โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้ดูน่ากลัวและวังเวงทวีคูณความสยองเข้าไปอีก



สำหรับสถานที่รกร้างที่ไม่มีใครดูแล และในอดีตสถานที่แห่งนี้ได้เป็นสำนักสงฆ์ของพระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธ โร วัดท่าลาดใต้ ซึ่งพระอาจารย์ซ่วนเป็นเกจิชื่อดังที่โด่งดังในเรื่องปลัดขิก และเมื่อหลายสิบปีก่อนสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้ปล่อยรกร้างเพราะไม่มีคนดูแลเนื่องจากว่าพระอาจารย์ซ่วนได้มรณภาพไปเมื่อปี  2536 เหลือทิ้งไว้แต่เพียงรูปปั้นจำนวนมากที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่เกือบ 2 ไร่
ซึ่งรูปปั้นที่ตั้งอยู่นั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นรูปปั้นของภูตผีเทวดาตายาย และรูปปั้นในวรรณคดีต่างๆ และสำหรับคนที่เคยก้าวเข้าไปในพื้นที่สยองแห่งนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารูปปั้นทุกตัวเหมือนกำลังจ้องมองมาด้วยแววตาที่คล้ายกับว่ามีสิ่งเร้นลับอาศัยอยู่ในนั้น 

แต่ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลับเป็นจุดสนใจของนักลองดีทั้งหลาย เพราะว่ารูปปั้นแต่ละตัวนั้นลือกันว่ามีอัฐิของคนตายฝังอยู่ จึงทำให้สำนักสงฆ์ร้างกลางป่าแห่งนี้ทำให้ชาวบ้านแถบนั้นต่างร่ำลือถึงความเฮี้ยน และความสยองของภายในสำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้ ซึ่งไม่มีใครกล้าเข้าไป เพราะกลัวอาถรรพ์ของพื้นที่นี้เรียกได้ว่า สำนักสงฆ์ร้างของพระอาจารย์ซ่วน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่สร้างความสยดสยองให้กับคนที่เคยสัมผัสและเคยก้าวเข้าไปในสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก

ผีตายโหง โค้งร้อยศพ



ขึ้นชื่อว่าเรื่องผีเรื่องวิญญาณ หลายคนอาจจะทราบว่ามีหลายประเภทด้วยกัน และวันนี้เราจะมากล่าวถึง “ผีตายโหง”สำหรับผีตายโหง คือ คนที่เสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนเสียชีวิตที่ไม่ธรรมดา ตายแบบผิดธรรมชาติ ซึ่งอาจจะตายเพราะประสบอุบัติเหตุรถชน จมน้ำ ล้วนแล้วแต่เป็นผีตายโหงด้วยกันทั้งนั้น 

และสำหรับโค้งร้อยศพที่เป็นสถานที่ที่หลายคนลือกันว่ามีผีตายโหงนับร้อยศพ นับร้อยดวงวิญญาณ อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น แต่สำหรับคนที่ได้รับรู้เรื่องราวของโค้งร้อยศพก็อาจจะไม่ได้นึกถึงอีตายโหงเพียงแค่อย่างเดียว เพราะว่าโค้งร้อยศพที่เขาร่ำลือกันว่า มีภูตผีวิญญาณนับร้อยชีวิตสิ่งสถิตอยู่ที่นั่น 

โค้งร้อยศพ อาจจะเป็นสถานที่ที่คอยเตือนสติให้ คนใช้รถใช้ถนนทุกคนมีสติในการขับรถ และถ้าหากพิจารณาดีเราจะเห็นว่าความน่ากลัวของโค้งร้อยศพนั้น มีสิ่งสอนเตือนใจทำให้เรามีสติทุกครั้งที่จับพวงมาลัย

 และสำหรับผีตายโหงในปัจจุบันนี้ก็ยังคงได้รับความนิยม และเป็นที่สนใจของคนทุกคน และสำหรับโครงร้อยศพก็เป็นเพียงอีกหนึ่งสถานที่ที่ยังคงมีเสียงเล่าลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็นสถานที่ที่ น่ากลัว และยังมีภูตผีวิญญาณหลายตรงที่รอตัวตายตัวแทนอยู่

สัมผัสสยองประจำวันเกิด



สัมผัสที่ 6 เป็นสิ่งที่สัมผัสได้เป็นบางคน แต่ไม่ทุกคน บางคนเชื่อบางคนไม่เคยเพราะบางคนไม่เจอกับตัว และสำหรับสัมผัสที่ 6 ที่เราจะกล่าวถึงวันนี้คือ สัมผัสสยองของ 7 วัน ใครเกิดวันนไหนต้องระวังอะไรไปดูกันเลย

คนเกิดวันจันทร์ อย่าส่องกระจกเวลาเที่ยงคืนโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะในกระจกร้าว และถ้าได้ยินเสียงอะไรแปลกๆหรือว่าได้ยินเสียงเรียกในเวลาค่ำคืนอย่าขานรับเด็ดขาด คนโบราณเชื่อว่านั่นเป็นเสียงทวงถามของวิญญาณ

คนเกิดวันอังคาร สำหรับคนเกิดวันนี้จะลำบากกว่าคนอื่นๆ เพราะคุณไม่ควรเข้าห้องน้ำนอกบ้าน ถ้าไม่มีธุระควรอยู่ห่างจากห้องน้ำที่ไม่น่าไว้ใจ เพราะว่าห้องน้ำ ร้านอาจจะมีอะไรบางอย่าง แอบติดตามคนออกมาหรือปรากฏตัวให้คุณเห็นก็เป็นได้

คนเกิดวันพุธ ไม่ควรไปงานศพเพราะว่าคนที่เกิดวันพุธอาจจะมีวิญญาณติดตามตัวคนกลับออกมาจากงานศพก็เป็นได้และถ้าหากว่าเป็นงานที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้หลังจากที่คุณกลับมาจากงานศพแล้วให้รีบอาบน้ำก่อนเวลาเที่ยงคืนและถ้าจะให้ดีที่สุดน้ำที่ควรเป็นน้ำว่าน

คนเกิดวันพฤหัส ยามวิกาล คนเกิดวันนี้อย่ามองไปที่หัวบันไดบ้านหรือถ้าหาได้ยินเสียงอะไรแปลกๆคล้ายกับเรียกชื่อของคุณคุณอย่าขานรับเด็ดขาด ให้ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วเสียงนั้นจะหายไปเอง

คนเกิดวันศุกร์ คุณอาจจะเคยได้ยินว่าธาตุน้ำอาจจะเป็นเหมือนประตูเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ ดังนั้นคนที่เกิดวันศุกร์อย่างคุณควรหลีกเลี่ยงการเดินทางทางน้ำดีที่สุด

คนเกิดวันเสาร์ ศาลพระภูมิคือสิ่งต้องห้ามสำหรับคนที่เกิดวันเสาร์ คุณสามารถเคารพหรือกราบไหว้ได้แต่อย่าจ้องมองไปที่ศาลโดยตรง และถ้าได้ยินเสียงหมาเห่า หรือว่าหมาหอนใกล้ๆตัวคุณนั่นอาจจะแปลว่าคุณกำลังโดนติดตามมาโดยภูตผีและวิญญาณ

คนเกิดวันอาทิตย์ คนเกิดวันนี้ควรหลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง เพราะพลังอะไรบางอย่างที่ลึกลับอาจจะทำให้คุณเห็นผีหรือวิญญาณก็เป็นได้ 

 

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561

เรื่องเล่าจากชนบท





สำหรับในชนบทหรือว่าในแถบภาคอีสานยังคงมีความเชื่อในเรื่องของภูตผีวิญญาณรวมไปถึง สิ่งที่ผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าสืบต่อกันมา ซึ่งเรื่องราวที่ผู้เขียนกำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง กับพ่อของผู้เขียนเอง
สำหรับเรื่องราวความเชื่อในแถบภาคอีสานคงจะหลีกหนีไม่พ้นเรื่องของ”ผีปอบ” สำหรับผีปอบถือว่าเป็นผีที่ขึ้นชื่อมากในแถบของภาคอีสาน ซึ่งความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ ปู่ย่าตายายและพ่อแม่ ต่างเล่าขานและสืบต่อกันมาว่าผีชนิดนี้มีอยู่จริง
“โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ ปีพ.ศ  2520  ในขณะนั้นพ่อของผู้เขียนกำลังเป็นวัยรุ่น อายุราวๆ 19 ปี ซึ่งในขณะนั้นก็มีข่าวลือว่าผีปอบกำลังออกอาละวาดในหมูบ้านมีผู้คนตายไปแล้ว 3 ศพ ซึ่งหลายคนต่างก็เชื่อว่าการตายของคนในหมู่บ้านเป็นฝีมือของผีปอบ ดังนั้นจึงได้เชิญ หมอไล่ผีหรือที่คนชนบทเรียกว่า”หมอธรรม” มาทำพิธีขับไล่ 


โดยวิธีการในการขับไล่ผีปอบในชนบทนั้น ชาวบ้านจะรวมตัวกัน ประกอบพิธีการขับไล่ผีปอบโดยนำเอาไม้ง่ามวิ่งไล่จับปอบ มาใส่บ้างไหมไผ่ แล้วปิดด้วยผ้ายันต์ แต่ทว่า หมอธรรมได้บอกกับชาวบ้านว่ามีปอดตัวหนึ่งที่มีอาคมแก่กล้าไม่สามารถจัดการได้ต้องยิงด้วยลูกปืนอาคมเท่านั้น
ซึ่งในขณะนั้นก็มีชาวบ้านหลายต่อหลายคนได้จ้องมองพิธีกรรมดังกล่าวซึ่งหมอธรรมได้วิ่งตามผีปอบตัวนั้นมาจนกระทั่งถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งหมอทำได้ชี้ว่าผีปอบได้นั่งอยู่บนกิ่งไม้ ลูกสิทธิ์ใช้ปืนลงอาคมยิงได้เลย หลังจากที่บอกจุดแล้ว ลูกศิษย์ของหมอธรรมคนหนึ่งก็ได้เล็งปืนไปที่กิ่งไม้ดังกล่าวแล้วเหนียวไกหลังจากสิ้นเสียงปืนแล้วหมอธรรมก็บอกว่าปอบตัวนั้นได้ตายไปแล้ว
แต่สำหรับชาวบ้านหลายคนก็ยังไม่เชื่อว่าปอบจะตายด้วยลูกปืนอาคมเพราะว่า หมู่บ้านแห่งนี้เคยมีพิธีกรรมไล่ปอบมาแล้วนักต่อนักแต่ก็ยังมีคนตายในหมู่บ้านตายพร้อมกันหลายๆศพหรือว่าตาย ติดต่อกันหลายๆศพแต่สำหรับคนที่ไม่เชื่อ ก็ยังคงไม่เชื่ออยู่อย่างนั้นแต่พ่อของผู้เขียนก็บอกว่าหลังจากผ่านไป 3 วัน พ่อได้เดินย้อนกลับไปดู สถานที่ที่หมอธรรมบอกว่าปอบตัวนั้นได้ตายด้วยลูกปืนอาคมแล้ว ซึ่งสถานที่บริเวณนั้นเต็มไปด้วยฝูงแมลงวันนับร้อยๆตัว พร้อมกับได้กลิ่นเหม็นเหมือนกับซากศพ แต่ไม่เห็นร่องรอยอะไรเลยนอกจากฝูงแมลงวันดังกล่าว
คนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้ก็อาจจะคิดไปว่าบริเวณนั้นอาจจะมีสุนัขตายหรือว่าสัตว์อื่นๆตายก็ได้จึงทำให้มีฝูงแมลงวันมาตอมแต่สำหรับพ่อของผู้เขียนได้เล่าว่าเรื่องนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะหลังจากที่ทำพิธีขับไล่ปอบในวันนั้น หมู่บ้านก็ไม่เคยพบเจอเรื่องราวร้ายร้ายแบบนี้อีกเลย

ปล.สำหรับเรื่องราวที่เราได้กล่าวไปแล้วนั้นเป็นความเชื่อส่วนบุคคลและเป็นเรื่องเล่า ที่ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะเล่าให้เด็กๆฟังส่วนจะเป็นความจริงหรือไม่นั้นเราก็ไม่อาจจะทราบได้เพราะมันเป็นเรื่องเกิดขึ้นในอดีต